ไข่ป่าม Grilled Egg on Banana Leaf

Looking for another Thai-style egg? Here you go for the menu. This menu is called "Kai-Parm" which is very easy to make, only if you can find a banana leaf. ในชีวิตเรา ตั้งแต่จำความได้ เราว่าเราเคยทานไข่ป่ามแค่ครั้งเดียว แถมจำรสชาติไม่ได้ซะด้วย แต่ทำไมไม่รู้ พอเริ่มทำอาหารเป็นบ้าง ไปๆมาๆ ความอยากทำไข่ป่ามมันก็เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งที่บ้านมีต้นกล้วย ก็เลยต้องทำให้หายอยากกันสักที พอทำเสร็จแล้วก็ค่อนข้างปลื้มนะ เพราะว่ามันเป็นไข่ที่หอมใบตองมากๆอย่างที่ไข่แบบอื่นให้ไม่ได้ (ก็แหงล่ะ) ใครชอบกลิ่นใบตองนี่ แนะนำโลดๆเลย ไข่ป่ามเป็นเมนูที่ไม่ได้ยากไปกว่าไข่เจียวเลย ใครที่บังเอิญที่บ้านหรือแถวบ้านมีต้นกล้วย ก็เอามาทำเล่นๆกับไข่ไก่ที่ซื้อมาตุนในตู้เย็นได้ วิธีทำ ตอกไข่ใส่ชาม ใส่น้ำปลา พริกไทป่น คนให้ไข่แดงแตก แต่ไม่ตีขึ้นฟองแบบไข่เจียว ตั้งกระทะไฟกลาง... Continue Reading →

เกี๊ยวน้ำ บ้านบ้าน Shrimp Wonton Soup

วันนี้ จะชวนคุณพ่อบ้านแม่บ้านมาทำอาหารง่ายๆทานในครอบครัว เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี แถมทำง่าย ช่วยกันทำในบ้านก็ได้ด้วย (เออ ไม่พ้นของกินอีกแระ) อิท อิส เกี๊ยวน้ำ นั่นเอง Wonton soup is one of my most memorable menu since when I was a kid. Let's see what's in my home recipe: เตรียมน้ำซุปกันก่อน ถ้าใครไม่มีเวลาเคี่ยวกระดูกหมู หรือโครงไก่ ก็ใช้คนอร์เป็นตัวช่วยนะ แล้วก็ต้องใส่รากผักชีทุบ หัวหอมใหญ่ กระเทียมทุบ ลงไปด้วย ขาดไม่ได้เลย สามทหารเสือนี้ แล้วแอบปรุงรสด้วยน้ำตาล(นิดเดียว) พริกไทขาว ซีอิ๊ว ด้วย For the soup: Coriander root - This... Continue Reading →

Why Not? บางคำตอบ ก็เป็นคำถามง่ายๆ

เราได้ดูหนังเรื่องนี้บนเครื่องบินสักไฟลท์หนึ่งเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าสมาธิจะไม่ค่อยจดจ่ออยู่กับหนังสักเท่าไหร่ ตามประสาการดูหนังบนเครื่องบินของคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังบนเครื่องบิน เพราะมักใช้เวลาไปกับการหลับเพื่อต่อสู้อากาศที่น่าวิงเวียนบนเครื่องบินซะมากกว่า แต่คิดอย่างไรไม่รู้ เกิดอยากดูหนังขึ้นมา โดยทั่วไป เราไม่ใช่คนชอบดูหนังมากนัก แต่หนังหลายๆเรื่อง ก็สามารถทำให้เราประทับใจได้เป็นอย่างดี และเรื่องนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หนังเรื่องนี้ อาจจะดูเหมือนหนังครอบครัวทั่วไป ที่มีประเด็นเรื่องความผูกพันในครอบครัว ปัญหาในครอบครัว ขนานไปกับประเด็นใหญ่อีกประเด็นให้เผชิญอยู่ด้านนอก แต่ไม่ว่าจะขนานอย่างไร ทั้งสองเรื่องราว ก็ต้องดำเนินไปอย่างสมดุลและลงตัว และมีความเกี่ยวพันกันอย่างช่วยไม่ได้ การสูญเสียคนในครอบครัว คือจุดเริ่มต้นหลักของครอบครัวนี้ พระเอกสูญเสียภรรยาไป แต่ก็ยังมีลูกสองคนไว้เป็นกำลังใจในการสู้ต่อ ด้วยความที่การสูญเสียมันยากจะรับได้ไหว (เมื่อก่อนก็ไม่อินกับการเสียคนรักเท่าไหร่ จะไปอินกับเรื่องแม่ลูก เรื่องสัตว์ซะมากกว่า แต่ตอนนี้ผ่านอะไรมาพอตัวทำให้อินแล้วเหมือนกัน) จึงต้องการจะออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ไปเริ่มต้นใหม่ การย้ายบ้าน ย้ายงาน จึงเกิดขึ้น แต่พระเอกก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลง "ครั้งใหญ่" ขนาดนี้ คนที่แค่ต้องการจะดีดตัวออกจากสิ่งเก่าๆ หรือคนที่กำลังจะจมน้ำ คงหวังเพียงให้ตะเกียกตะกายให้พ้นน้ำ คงไม่ได้คิดว่าจะต้องกระโจนพ้นน้ำให้สูงเป็นปลาโลมา โจทย์ใหม่ของพระเอกคราวนี้ก็คือ เขาต้องกระโจนพ้นน้ำให้สูงเป็นปลาโลมา หนังมันก็สไตล์หนังครอบครัวฮอลีวู้ด นั่นคือ แฮปปี้เอนดิ้ง (แต่เรื่องนี้ก็สร้างจากเรื่องจริงนะ) แต่มันก็ทำให้ย้อนมาดูตัวเองหนักๆ ในฐานะที่เป็นคนธรรมดาสามัญที่ขี้กลัว ขี้ขลาด ขี้คร้าน ในการจะทำอะไรใหม่ๆ... Continue Reading →

เหตุที่เหมาะสม The proper reason

ยิ่งสังเกตตัวเองมากเท่าไหร่ ยิ่งคอยดูตัวเองมากเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งค้นพบคำตอบที่หาไม่เจอในอดีตที่ผ่านมา แล้วก็ยิ้มให้กับตัวเอง...^___^ บางอย่างเรื่องมันเส้นผมบังภูเขามากๆ แต่มันก็ใช้เวลานับสิบปี กว่าเราจะมองเห็นมัน แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้ใช้เวลาเป็นตัวทำให้มองเห็นอย่างเดียว เราต้องมีความตั้งใจที่จะสังเกตสังกา เพื่อมองมันให้เห็นด้วย สิ่งที่เราคิดว่าเราเป็น กับสิ่งที่เราเป็นจริงๆ คนทั่วไปก็มักจะมองไม่เห็นอย่างที่สองของตัวเอง และเราก็ว่า มันไม่ใช่ง่ายๆที่จะมองเห็น เพราะเราถูกความคิดปกคลุมอยู่ตลอดเวลา คิดว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือชอบอย่างนี้ก็เลยคิดว่าเราเป็นแบบนี้แหละ กันไป ทำไมเราต้องคิดว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้? ก็เพราะว่าการมีตัวตน เป็นสิ่งที่เรียกว่า จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนทั่วไป เราพยายามนิยามตัวตนของเรา ด้วยการให้มันเป็นแบบนั้นแบบนี้ เรากลัวที่จะสูญเสียความมีตัวตนของเราไป เราไม่กลัวว่าตัวตนเราจะใหญ่โตชัดเจนขนาดไหน ยิ่งใหญ่ยิ่งชัดยิ่งดี ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ตัวตนของเรา คืออะไร ใครรู้บ้าง? ตัวตนของเราคือการชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือเปล่า? ตัวตนของเราคือการเป็นคนชอบใส่เสื้อสีชมพู? ตัวตนของเราคือการเป็นคนฟังเพลงแจส? ตัวตนของเราคือการเป็นคนที่ไม่ขึ้นกับใครทั้งสิ้น? ตัวตนของเราคือรถ บ้าน หนังสือ ที่เราซื้อมา? ตัวตนเราคือ ความอ่อนไหว ความเข้มแข็ง ที่ใจเราเป็น? แล้วเมื่อเราพบว่า สิ่งที่เราคิดว่ามันคือตัวตนของเรา แท้จริงมันกลับไม่ใช่ เราก็เกิดอาการเคว้งคว้าง ต้องรีบไปหาคำตอบมาเติมเต็มช่องว่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ พอหามาเติมได้... Continue Reading →

ยังอีกไกล Still way to go

เร็วๆนี้ เพิ่งเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงว่า ทั้งชีวิตนี้ : การที่จะทำอะไร โดยไม่มีคนไม่พอใจ - มันยาก ด้วยความผิดพลาด และ mindset ที่แตกต่าง การที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจเจตนาของเรา - มันยากกว่า ด้วยโอกาสที่มี และ mindset ที่แตกต่าง ที่มีต่อ issue ที่เกิดขึ้น การที่เราจะไปตามแก้ไขความเข้าใจที่คนอื่นมีต่อเรา - มันยากขึ้นไปอีก เพราะไม่รู้ว่าความเข้าใจแบบนั้นมันไปถึงไหนแล้ว และ mindset ที่แตกต่างของแต่ละคน ต่อ issue ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงโอกาสที่จะได้แก้ไข การที่เราจะปล่อยวาง ไม่ดิ้นรน ไม่เลือกที่จะเชิดใส่ หรือโต้ตอบ หรือแก้ไข ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มๆตาว่า มีคนมองเราไม่ดี - มันยากที่สุด เพราะคำว่า "เรา" คำเดียว หลายๆเรื่องที่ผ่านมา เราตัดสินใจที่จะเลือกทางที่ยากที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าจะพยายามเข้มแข็ง แข็งกร้าว หรือไม่แคร์สื่อ แต่เพราะว่า เราต้องการฝึกตัวเองให้เข้าใจความจริงระดับหัวใจ ไม่ใช่เพียงระดับสมองที่ไปอ่านเรื่องโลกธรรมที่ไหนก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริง... Continue Reading →

เมตตาตัวเอง Self Metta

A part of teaching of Arjarn Amnart Opaso, my respected teacher. ไปนั่งฟังคำสอนของหลวงพ่ออำนาจ โอภาโส ที่บ้านอารีย์มา ท่านพูดเริ่มหัวข้อในเรื่องเมตตาตัวเอง แล้วก็ go on ไปเรื่องอื่นๆตามมา (คุ้มค่าทุกครั้งที่ได้ไปฟังท่านเทศน์) เลยจุดประกายให้เราเขียนไดในหัวข้อนี้มั่ง เราก็เอามาเล่าในสำนวนเราละกัน ก็เพิ่มเติม ใส่ไข่ เรียบเรียง ตามแบบของเรานั่นแหละ ผิดคลาดเคลื่อนสรุปไม่เข้าใจอย่างไร เราขอรับแต่เพียงผู้เดียว แต่สำหรับตรงไหนที่ถูก ทำให้คนอ่านเห็นตามจริงได้ ก็เป็นเพราะพระอาจารย์ท่านสอนมาดังนั้น ตามนี้นะ เมตตาตัวเอง บางคนฟังแล้วอาจจะ เอ๊ะ เคยได้ยินแต่เมตตาคนอื่น เมตตาตัวเองเป็นยังไง เมตตาคนอื่น เมตตาหมาแมว ก็หวังจะให้เขาเหล่านั้นมีความสุข แต่ทั้งนี้ ต้องเอามิจฉาทิฏฐิออกนะ ไม่ใช่ว่า เห็นเขาไปรักคนมีแฟนแล้ว ก็ปรารถนาจะให้เขามีความสุขโดยที่รักแบบผิดๆต่อไป มีคนมาชอบเรา เราเลยเมตตาให้ความหวังลมๆแล้งๆกับเขา อะไรงี้ ไม่นับเป็นเมตตา เมตตาเป็นคุณสมบัติของจิตใจที่ทุกคนควรมีนะ คนที่เอาแต่ความต้องการความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง แม้ว่าอาจจะคิดว่า ฉันก็ต้องการของฉัน ไม่เห็นหนักหัวใคร ถ้ามีเข้าเยอะๆแล้ว... Continue Reading →

ผาซ่อนแก้ว 2009 Phasornkaew retreat 2009

Self-retreat, in this case, has nothing to do with superstitious stuffs. It's about observing ourselves and the ways to see ourselves more. ไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วมาอีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้ไปกับกลุ่มบ้านอารีย์ แต่ไปเองเลย โดยมีพี่คนนึงเขาเป็นคนช่วยจองบ้านให้ และก็ขับรถนั่งกันไปสี่ชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครโทรไปจองก็ได้นะ เขาต้องเมคชัวร์ว่า เคยไปมาก่อน หรืออย่างน้อยที่สุด ก็เคยปฏิบัติภาวนาในทางเดียวกับที่นี่มาแล้ว เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้สถานที่ และ optimise พลังงานของหลวงพ่อทั้งสอง ที่ใช้ต้อนรับและสอนพวกเรา ครั้งนี้ไปช่วงวันมาฆบูชา จึงไม่ต้องหวังว่า จะได้อยู่แบบเงียบวังเวง แต่ไม่เป็นไร ก็ไปแบบชิลๆ แต่ก็ตั้งใจเรียนนะ ในที่สุดก็ไปถึงจนได้ ตอนใกล้ๆถึงมีการแพนิคให้ระทึกว่าน้ำมันจะหมดกันเล็กน้อย เราตอนแรกๆไม่แพนิค พอพี่หมีพูดมากๆเข้าก็เลยเริ่มกังวลไปด้วย ฮ่วย (พี่หมีบอกไม่แพนิค แต่พูดตลอดเวลาเลย แปลว่าอะไรเนี่ย) ก็ไปรายงานตัวที่สำนักงาน ซึ่งเป็นห้องที่เมื่อก่อนใช้เก็บเครื่องนอน และเครื่องนอนเดี๋ยวนี้ก็แยกย้ายเก็บแต่ละบ้านแล้ว เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคกล่องพลาสติกใหญ่มาเก็บ... Continue Reading →

ธรรมะสปา Dharma Spa by Aj. Mitsuo Kuesuko

อ่านหนังสือ "ธรรมสปา" ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก มีประโยคจังๆจี๊ดๆอยู่บางประโยค ขอตัดแบ่งเก็บไว้หน่อย ณ ที่นี้ละกัน --- บอกกับตัวเองว่า "ชีวิตคือการต่อสู้" ต่อสู้กับความยากจน ต่อสู้กับการเสื่อมยศ ต่อสู้กับคำคนนินทา คนนี้ทำให้เสื่อมลาภ คนนี้ทำให้เสื่อมยศ คนนี้ทำให้เป็นทุกข์ คนนี้ขี้นินทา ศัตรูล้วนมากมาย ... ในความรู้สึกของเราเองทั้งสิ้น --- เมื่อเกิดอารมณ์ไม่พอใจ อย่าโทษว่าคนอื่นเป็นต้นเหตุ แต่บอกตัวเองว่า นี่คือความไม่สบายใจ --- ตราบใดที่ยังมีกิเลส ย่อมมีปัญหา ย่อมมีทุกข์ ซึ่งล้วนเกิดขึ้นเพราะตัวเราเองทั้งนั้น --- เรามักมองไม่เห็น มองข้ามความผิดของตน แต่สังเกตความไม่ดีของคนอื่นได้อย่างชัดเจน แม้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม --- ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้กันและกัน แต่พอนานไป วิชาเรียนรู้การให้อภัยซึ่งกันและกัน กลับได้ใช้มากกว่า --- อารมณ์รักก็มีลักษณะเช่นเดียวกับอุปาทาน จึงไม่ควรเอามาตัดสินปัญหาใหญ่ๆในชีวิต --- เรามักเปรียบเทียบกับคนอื่น จนคิดอยากได้อยากมีแบบเขา ไม่ใช่ว่าทุกข์เพราะไม่มี แต่กลายเป็น...เพราะมีไม่พอ --- การเป็นที่รักของผู้อื่นนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่... โอบอ้อมอารี ปิยวาจาน่าฟัง เกื้อกูลผู้อื่น... Continue Reading →

ผาซ่อนแก้ว 2008 Phasornkaew retreat 2008 (4)

พักโลกไปพักใจ ผาซ่อนแก้ว (๔) Self-retreat, in this case, has nothing to do with superstitious stuffs. It's about observing ourselves and the ways to see ourselves more. เช้านี้คุณหมอณัฏฐ์นำทำวัตรเช้า เพราะว่าหลวงพ่อปารมีต้องไปขึ้นเครื่องหาหมอตั้งแต่ตีห้า ดาวก็สุกสกาวอร่ามตาตอนตี ๕ เหมือนเมื่อวาน ขนเครื่องนอนขึ้นเขาไปเก็บตั้งแต่ก่อนไปทำวัตรเช้า เลยได้เหงื่อตั้งแต่เช้าเลย ฟ้าเริ่มสาง ที่ศาลาพระหยกเขียว ฟ้าค่อยๆสางเป็นเส้นๆ มองไปไกลๆ แล้วใจสบายยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ สบายตา แล้วก็เดินไปใส่บาตรแบบเชื่องช้า กะว่าทันชัวร์ๆ เดินผ่านหน้าพระสีวลีเหมือนเดิม ปรากฏว่า วันนี้พระท่านเช้ากว่าเดิม ๑๕ นาที อดใส่บาตร - -'' เลยเอาของที่เตรียมไว้ใส่บาตรวันนี้ให้แม่บ้านที่เข้ามาทำงานในผาซ่อนแก้วแทน มีหมอกลงให้เห็นเล็กน้อย ก็ยังดี มาเป็นเส้นๆอีกแล้ว หมอกลงที่ยอดภูทับเบิกทุกวัน รูปสุดท้ายก่อนไปทานอาหารเช้า... Continue Reading →

ผาซ่อนแก้ว 2008 Phasornkaew retreat 2008 (3)

เมื่อคืนเงียบสนิทไม่มีลมเลย เงียบจนตื่น แล้วก็ฟุ้ง เมื่อวานก็เสียงดังจนตื่น และก็ฟุ้ง เอาเข้าไป เริ่มปวดหลังจากการนอนพื้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีก (อะไรๆก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เนอะ) ตื่นมาตี ๔ ๕๐ นาที ภาพแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมา (นอนหันหน้าออกประตูกระจก) คือ ดาวเด่นช่วงระยับฟ้า สวยจนตาสว่าง เช้านี้พอทำวัตรเช้าเสร็จ หลวงพ่อปารมีก็พาขึ้นเขาก่อนใส่บาตร เดินเจริญสติตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เดินเดิ๊นเดินขึ้นเขา จนเกือบแฮ่ก หลวงพ่อก็ให้หันหลังกลับไปดู แล้วก็เดินเดินเดินกันต่อไป เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีจริงๆ เรื่องเหนื่อยเป็นเรื่องน้อยนิด แล้วก็กลับลงไปใส่บาตร แล้วก็มีคนแอบเห็นเรา เขิล... อยู่กรุงเทพไม่ยักเห็นกันเนอะ ต้องถ่อไปแอบเห็นเราถึงที่นี่ ^^'' แล้วก็กลับขึ้นมา ผ่านหน้าพระสีวลี ไปทานอาหารเช้า อาหารเช้า ก็เดิมๆ ทานเพลินๆ แล้วก็เดินไปที่ศาลาพระหยกเขียว เตรียมตัวเรียนหนังสือ วิวไกลๆงดงามเหมือนเราอยู่บนสวรรค์จริงๆนะ วันนี้เรียนเรื่องปฏิจจสมุปบาท เหมือนเดิม เล่าคร่าวๆว่าสอนอะไร ที่เหลือจะบันทึกไว้ที่อื่น - ทั้งจักรวาลมีแต่รูปกับนาม ไม่มีอะไร ไม่มีใคร แต่จะทิ้งสมมติทั้งหมดแล้วเอาแต่โลกุตตระมันไม่ได้ มันจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง จะใส่เสื้อแดงไปงานศพมันก็ไม่ได้ อันนี้เจอกับตัวเองเลย คนที่เอะอะก็พูดอะไร... Continue Reading →

ผาซ่อนแก้ว 2008 Phasornkaew retreat 2008 (2)

วันนี้เตรียมใจกับอารมณ์เบื่อ เซ็ง ตามปรกติ เพราะวันนี้แหละที่จะเกิดอารมณ์งอแงอยากกลับบ้านมากกว่าทุกวัน ไม่ว่าจะมาภาวนา หรือไปเที่ยว เราเป็นหมด ทำวัตรเช้า ที่ศาลาพระหยกเขียว เดินขึ้นเขาแต่เช้า เพราะเรือนพักอยู่ด้านล่างเกือบสุด เหนื่อยแต่เช้าเลย แต่แหม... เรื่องเล็กน้อยน่า หนังสือสวดมนต์ใหม่ๆ เพิ่งพิมพ์เมื่อเดือน 10 นี่เอง ยังร้อนๆอยู่เลย (เวอร์) สวดมนต์ไปก็รู้ความหมายไป เออ ชีวิตเราก็เท่านี้นะ ยังไงสิ่งที่เราไม่อยากได้ เราก็ต้อง eat it up เพราะมันเป็นสัจธรรมของชีวิตที่เลี่ยงไม่ได้ สวดมนต์เสร็จ หลวงพ่อปารมีพาไปเดินเจริญสติแล้วไปใส่บาตรเลย แต่เราไม่ได้เอาของใส่บาตรมาด้วย เลยต้องกลับไปเอาก่อน แต่ป่านนั้น เขาก็เดินกันไปถึงไหนแล้วไม่รู้ เรือนพักก็ไกล บลาๆ เลยมารออยู่ที่สะพานทางเข้าวัดเลยก็แล้วกัน หน้าวัดก็มีรถมาขายกับข้าวใส่บาตร อ่า ซื้อมะขามกับส้มไปแล้วอะนะ ^^'' ไม่รู้ก่อนนี่นาว่ามี สักพัก ทั้งคณะก็เดินมาจากทางด้านนี้ แล้วเราก็จะเริ่มใส่บาตรกัน ปรกติของผู้มาภาวนา ก็จะมารอใส่บาตรตรงทางเข้าวัดนี้ หลังจากที่พระท่านไปบิณฑบาตที่อื่นกลับมา ก็จะมาบิณฑบาตบริเวณนี้อีกหนึ่งรอบ เพิ่งเกตด้วยใจ ว่าทำไมต้องถอดรองเท้าใส่บาตร เมื่อก่อนเราว่ามันไม่เมคเซนส์อะ เรื่องยืนสูงกว่าพระ อะไรงี้... Continue Reading →

Blog at WordPress.com.

Up ↑